Translate
วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556
Once when a Lion was asleep,
a little mouse began running up and down upon him;
this soon wakened the Lion,
who placed his huge paw upon him,
and opened his big jaw to swallow him.
Pardon, O King,"
cried the little Mouse;
forgive me this time,
I shall never forget it.
Who knows
what I may be able to do you a turn some of these days?"
The lion was so tickled at the idea of the Mouse
being able to help him,
that he lifted up his paw and let him go.
Some time after
the lion was caught in a trap,
and the hunters, who desired to carry him alive to the king,
tied him to a tree
while they went in search of a waggon to carry him on.
Just then the little Mouse happened to pass by,
and seeing the sad plight in which the lion was,
went up to him
and soon gnawed away the ropes
that bound the King of the Beasts.
นิทานอีสปเรื่อง เด็กเลี้ยงแกะกับหมาป่า (The Shepherd's Boy and the Wolf)
The Shepherd's Boy and the Wolf
SHEPHERD-BOY, who watched a flock of sheep near a village, brought out the villagers three or four times by crying out,
"Wolf! Wolf!" and when his neighbors came to help him, laughed at them for their pains.
The Wolf, however, did truly come at last. The Shepherd-boy, now really alarmed, shouted in an agony of terror: "Pray, do come and help me; the Wolf is killing the sheep"; but no one paid any heed to his cries, nor rendered any assistance.
The Wolf, having no cause of fear, at his leisure lacerated or destroyed the whole flock.
“There is no believing a liar, even when he speaks the truth.”
นิทานเรื่อง เด็กเลี้ยงแกะกับหมาป่า (The Shepherd's Boy and the Wolf)
SHEPHERD-BOY, who watched a flock of sheep near a village, brought out the villagers three or four times by crying out, "Wolf! Wolf!" and when his neighbors came to help him, laughed at them for their pains.
เด็กเลี้ยงแกะคนหนึ่งเฝ้าดูแลฝูงแกะอยู่ใกล้ ๆ กับหมู่บ้าน ได้เคยทำให้พวกชาวบ้านวิ่งมาเพื่อช่วยเหลือเขาหลายต่อหลายครั้งด้วยการร้องขึ้นว่า “หมาป่า หมาป่ามาแล้ว” ทั้งนี้เพื่อความสนุกสนานของตัวเขาเองเท่านั้น เมื่อพวกชาวบ้านมาถึงเพื่อจะช่วยเขา ก็ไม่ได้เห็นหมาป่าเลยแม้แต่สักตัวเดียว และเด็กเลี้ยงแกะก็ได้แต่หัวเราะพวกชาวบ้านที่ได้รับ ความยุ่งยากลำบาก
The Wolf, however, did truly come at last.
อยู่ต่อมาวันหนึ่ง หมาป่าซึ่งชอบขโมยแกะตัวหนึ่งก็มาจู่โจมฝูงแกะจริง ๆ
The Shepherd-boy, now really alarmed, shouted in an agony of terror: "Pray, do come and help me; the Wolf is killing the sheep"; but no one paid any heed to his cries, nor rendered any assistance.
ตอนนี้เด็กเลี้ยงแกะตกใจจริง ๆ จึงร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจสุดขีดว่า “ช่วยด้วย ช่วยด้วย หมาป่ากำลังฆ่าพวกแกะ” น่าเศร้าใจนักที่ไม่มีใครสนใจเสียงร้องของเขาเลย
The Wolf, having no cause of fear, at his leisure lacerated or destroyed the whole flock.
เมื่อไม่มีอะไรต้องกลัวหมาป่า ก็จัดการกับงานของมันอย่างง่ายดาย โดยทำลายแกะเสียงทั้งฝูงได้โดย ไม่ต้องรีบร้อนอะไรเลย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“There is no believing a liar, even when he speaks the truth.”
“ไม่มีใครเชื่อคนโกหก แม้ว่าเขาจะพูดความจริงก็ตาม”
คำศัพท์น่ารู้ (vocabularies)
flock (n.) = ฝูงสัตว์ village (n.) = หมู่บ้าน
neighbor (n.) = เพื่อนบ้าน laugh (v.) = หัวเราะ
agony(n.) = ความเจ็บปวด terror (n.) = ความหวาดกลัว
Once there was a poor woodcutter. Every day he went out into the forestto cut wood. He sold the wood he had cut to the villagers, but he very little money for it .
กาลครั้งหนึ่ง มีชายตัดไม้ผู้ยากจนคนหนึ่ง ทุกๆ วัน เจาจะเข้าไปในป่าเพื่อตัดไม้ และขายไม้ที่ตัดได้ให้กับคนในหมู่บ้าน แต่เงินที่ได้จาก
การขายไม้มีเพียงน้อยนิดเท่านั้น
Suddenly a boy with wings appeared before him. It was Mercury.God had sent him to help the poor woodcutter. When he heard what had happened to the axe,he jumped into the river and came out with a silver axe in his hand. ” Is this your axe ?” he asked ” No,” said the woodcutter.
ทันใดนั้นเด็กผู้ชายตัวน้อยมีปีกก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าชายผู้นี้ เขาคือเทพเมอคิวรี่ พระเจ้าได้ส่งเทพเมอคิวรี่เพื่อมาช่วยชายตัดไม้ผู้ยากจน เมื่อเทพเมอคิวรี่ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นของชายตัดไม้ ท่านจึงกระโดดลงไปในแม่น้ำและงมหาขวานและกลับขึ้นมาพร้อมกับขวานเงิน ในมือ และเอ๋ยถามชายตัดไม้ว่า “ขวานเล่มนี้เป็นของเจ้าใช่ไหม” ชายตัดไม้ตอบว่า “ไม่ใช่ มันไม่ใช่ขวานของฉัน”
Then Mercury jumped into the river again.This time he took out a goldenaxe.” Is this your axe ?” he asked.” no” said the woodcutter. ” My axe is not made of gold or silver.It is made of iron.” So Mercury jumped into the rivera third time. This time he took out an iron axe.The woodcutter was very glad It was his axe.
จากนั้นเทพเจ้าเมอคิวรี่จึงดำลงไปในแม่น้ำอีกครั้งหนึ่ง ในครั้งนี้ท่านกลับมาพร้อมกับขวานทองและเอ๋ยถามชายตัดไม้ว่า “ขวานเล่มนี้เป็นของเจ้าใช่ไหม” ชายตัดไม้กล่าวตอบว่า “ไม่ใช่ ขวานของฉันนั้นไม่ใช่ขวานทองหรือขวานเงิน แต่มันเป็นขวานเหล็ก” เมื่อเทพเจ้าเมอคิวรี่ได้ยินเช่นนั้นจึงดำลงไปในแม่น้ำอีกเป็นครั้งที่สาม ครั้งนี้ท่านมาพร้อมกับขวานเหล็ก ชายตัดไม้ดีใจมากเมื่อได้ขวานของเขากลับคืนมา
![]() |
นิทานอีสปเรื่อง เด็กเลี้ยงแกะกับหมาป่า |
![]() |
นิทานอีสปเรื่อง เด็กเลี้ยงแกะกับหมาป่า |
![]() |
นิทานอีสปเรื่อง เด็กเลี้ยงแกะกับหมาป่า |
![]() |
นิทานอีสปเรื่อง เด็กเลี้ยงแกะกับหมาป่า |
![]() |
นิทานอีสปเรื่อง เด็กเลี้ยงแกะกับหมาป่า |
![]() |
นิทานอีสปเรื่อง เด็กเลี้ยงแกะกับหมาป่า |
นิทานเรื่อง เด็กเลี้ยงแกะกับหมาป่า (The Shepherd's Boy and the Wolf)
SHEPHERD-BOY, who watched a flock of sheep near a village, brought out the villagers three or four times by crying out, "Wolf! Wolf!" and when his neighbors came to help him, laughed at them for their pains.
เด็กเลี้ยงแกะคนหนึ่งเฝ้าดูแลฝูงแกะอยู่ใกล้ ๆ กับหมู่บ้าน ได้เคยทำให้พวกชาวบ้านวิ่งมาเพื่อช่วยเหลือเขาหลายต่อหลายครั้งด้วยการร้องขึ้นว่า “หมาป่า หมาป่ามาแล้ว” ทั้งนี้เพื่อความสนุกสนานของตัวเขาเองเท่านั้น เมื่อพวกชาวบ้านมาถึงเพื่อจะช่วยเขา ก็ไม่ได้เห็นหมาป่าเลยแม้แต่สักตัวเดียว และเด็กเลี้ยงแกะก็ได้แต่หัวเราะพวกชาวบ้านที่ได้รับ ความยุ่งยากลำบาก
The Wolf, however, did truly come at last.
อยู่ต่อมาวันหนึ่ง หมาป่าซึ่งชอบขโมยแกะตัวหนึ่งก็มาจู่โจมฝูงแกะจริง ๆ
The Shepherd-boy, now really alarmed, shouted in an agony of terror: "Pray, do come and help me; the Wolf is killing the sheep"; but no one paid any heed to his cries, nor rendered any assistance.
ตอนนี้เด็กเลี้ยงแกะตกใจจริง ๆ จึงร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจสุดขีดว่า “ช่วยด้วย ช่วยด้วย หมาป่ากำลังฆ่าพวกแกะ” น่าเศร้าใจนักที่ไม่มีใครสนใจเสียงร้องของเขาเลย
The Wolf, having no cause of fear, at his leisure lacerated or destroyed the whole flock.
เมื่อไม่มีอะไรต้องกลัวหมาป่า ก็จัดการกับงานของมันอย่างง่ายดาย โดยทำลายแกะเสียงทั้งฝูงได้โดย ไม่ต้องรีบร้อนอะไรเลย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“There is no believing a liar, even when he speaks the truth.”
“ไม่มีใครเชื่อคนโกหก แม้ว่าเขาจะพูดความจริงก็ตาม”
คำศัพท์น่ารู้ (vocabularies)
flock (n.) = ฝูงสัตว์ village (n.) = หมู่บ้าน
neighbor (n.) = เพื่อนบ้าน laugh (v.) = หัวเราะ
agony(n.) = ความเจ็บปวด terror (n.) = ความหวาดกลัว
เรียนภาษาอังกฤษจากนิทานอีสปเรื่อง เทพเมอคิวรี่กับคนตัดไม้ (Mercury and The Woodcutter)
กาลครั้งหนึ่ง มีชายตัดไม้ผู้ยากจนคนหนึ่ง ทุกๆ วัน เจาจะเข้าไปในป่าเพื่อตัดไม้ และขายไม้ที่ตัดได้ให้กับคนในหมู่บ้าน แต่เงินที่ได้จาก
One day as he was cutting wood his axe fell into the river.He could not get it out. He called out,” Help! Help!” But no one heard him and no one came.
วันหนึ่งขณะที่เขากำลังตัดไม้อยู่นั้น ขวานที่เขาใช้ตัดไม้เกิดพลัดตกลงไปในแม่น้ำและเขาไม่สามารถเก็บมันขึ้นมาได้ เขาจึงร้องตะโกนออกมาว่า “ช่วยด้วย ช่วยด้วย” แต่ก็ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องของเค้าเลย
ทันใดนั้นเด็กผู้ชายตัวน้อยมีปีกก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าชายผู้นี้ เขาคือเทพเมอคิวรี่ พระเจ้าได้ส่งเทพเมอคิวรี่เพื่อมาช่วยชายตัดไม้ผู้ยากจน เมื่อเทพเมอคิวรี่ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นของชายตัดไม้ ท่านจึงกระโดดลงไปในแม่น้ำและงมหาขวานและกลับขึ้นมาพร้อมกับขวานเงิน ในมือ และเอ๋ยถามชายตัดไม้ว่า “ขวานเล่มนี้เป็นของเจ้าใช่ไหม” ชายตัดไม้ตอบว่า “ไม่ใช่ มันไม่ใช่ขวานของฉัน”
จากนั้นเทพเจ้าเมอคิวรี่จึงดำลงไปในแม่น้ำอีกครั้งหนึ่ง ในครั้งนี้ท่านกลับมาพร้อมกับขวานทองและเอ๋ยถามชายตัดไม้ว่า “ขวานเล่มนี้เป็นของเจ้าใช่ไหม” ชายตัดไม้กล่าวตอบว่า “ไม่ใช่ ขวานของฉันนั้นไม่ใช่ขวานทองหรือขวานเงิน แต่มันเป็นขวานเหล็ก” เมื่อเทพเจ้าเมอคิวรี่ได้ยินเช่นนั้นจึงดำลงไปในแม่น้ำอีกเป็นครั้งที่สาม ครั้งนี้ท่านมาพร้อมกับขวานเหล็ก ชายตัดไม้ดีใจมากเมื่อได้ขวานของเขากลับคืนมา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)